อยากรู้ : Reorder Point คืออะไร
Series : Easy Production - Thailand 4.0
เกริ่นนำ : บทความเหล่านี้เขียนขึ้นเพื่อเล่าเรื่องการผลิตในอุตสาหกรรม
โดยใช้ประสบการณ์ของผู้เขียน เนื้อหาแบ่งเป็นหลายตอน ผู้อ่านสามารถเลือกเฉพาะบทความที่สนใจได้
จากการที่ได้พูดคุยกับฝ่ายจัดซื้อและฝ่ายดูแลคลังสินค้า
มักจะพบคำถามที่ว่า พนักงานไม่สามารถดูแลวัสดุทุกชิ้นได้อย่างทั่วถึง ทำให้อาจเกิดปัญหาในเรื่องการบริหารวัสดุไม่พอดีกับการใช้งาน
ฝ่ายจัดซื้อ ซื้อทีละมากๆ ก็กลัวเหลือค้างในคลัง หรือถ้าซื้อน้อย
ก็เกรงว่าจะไม่พอใช้งาน
ในบทความนี้ ขอเสนอวิธีการบริหารวัสดุให้มีความพอดี
และลดเวลาการดูแลวัสดุแต่ละตัว โดยใช้กลไกการตรวจสอบข้อมูล
ผ่านพารามิเตอร์ที่เรียกว่า Reorder
Point
Reorder point คือ จุดสั่งซื้อ โดยเมื่อผู้ใช้งานสั่งระบบทำงาน
โปรแกรมจะตรวจสอบว่า stock
ของวัสดุ เทียบกับ Reorder Point ของวัสดุ ที่มีการกำหนดไว้
ถ้า Stock >= Reorder Point ก็ยังไม่ต้องสั่งซื้อใดๆ
ถ้า Stock < Reorder Point ระบบจะทำการสร้างแผนสั่งซื้อ โดยคำนวณวันที่เริ่มต้นออกแผนสั่งซื้อ
และคำนวณวันที่ได้รับจากการสั่งซื้อ
ที่กล่าวมานี้ จะเห็นว่า
การสร้างแผนสั่งซื้อ โดยวิธีการ Reorder
Point นั้น
ไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แต่สิ่งที่ยากคือ
เราจะรู้ได้อย่างไร ว่าวัสดุแต่ละตัว ควรมี Reorder
Point ที่จำนวนเท่าใด
เรามาดูว่า มีหนทางอะไรบ้าง ที่จะได้มาซึ่ง Reorder Point
#ทางแรก อาศัยประสบการณ์ของผู้สั่งซื้อ โดยประมาณคร่าวๆ ว่า
แต่ละวัสดุควรจะมีจุดสั่งซื้อ อยู่ที่เท่าใด เพื่อไม่ให้ขาดเมื่อต้องการใช้ ทางนี้
เป็นทางที่ง่ายสุด แต่เสี่ยงสุด
เพราะถ้าจุดสั่งซื้ออยู่ต่ำ มีโอกาสที่วัสดุไม่พอใช้ แต่ถ้าจุดสั่งซื้ออยู่สูง และไม่มีการใช้
วัสดุต่างๆ ก็อาจจะค้างอยู่และกลายเป็น Dead
stock ได้
#ทางที่สอง
เป็นทางที่มีหลักการ มีสูตรคำนวณรองรับ แต่ว่าต้องมีข้อมูลการใช้ใน
อดีต มาดูสูตรว่ามีหน้าตาอย่างไร
ขั้นแรก ต้องหาค่า Safety Stock (SS) โดยคำนวณจาก
SS = Service level factor * MAD *RLT
มีที่มาดังนี้
-
RLT
ย่อมาจาก replenishment lead time หมายถึงเวลาในการจัดหาตามข้อตกลงกับ Vendor ที่ติดต่อด้วย
-
Service
level factor คือ
ระดับความพึงพอใจที่ต้องการ
-
MAD ย่อมาจาก
Mean absolute deviation โดยใช้ข้อมูลการใช้งานในอดีตมาคำนวณค่าพยากรณ์การใช้ในอนาคต
และหาค่าสถิติ MAD ออกมา
ขั้นที่สอง คือการคำนวณค่า reorder point (RP)
RP = SS + average daily requirement * RLT
มีที่มาดังนี้
-
RP
คือ Reorder Point คือจุดสั่งซื้อที่ต้องการคำนวณ
-
RLT
ย่อมาจาก replenishment lead time หมายถึงเวลาในการจัดหาตามข้อตกลงกับ Vendor ที่ติดต่อด้วย
-
Average
daily requirement คือค่าเฉลี่ยการใช้ต่อวันในอนาคต
-
SS
คือ Safety stock ที่คำนวณได้จากขั้นตอนแรก
#ทางที่สาม
มีสูตรรองรับเช่นกัน คล้ายๆ กับทางที่สอง
RP = (AVG Consumption 12 month latest * RLT / 30)
+ (1.64 * Standard deviation last 12 month of consumption
* square root of ( RLT / 30 ))
มีที่มาดังนี้
-
RP
คือ Reorder Point คือจุดสั่งซื้อที่ต้องการคำนวณ
-
AVG
Consumption 12 month latest หมายถึง
ค่าเฉลี่ยการใช้รายเดือนของวัตถุดิบ
โดยใช้ข้อมูล 12
เดือนย้อนหลัง
-
RLT
มาจาก Replenishment Leadtime หมายถึง จำนวนวันในการจัดส่งวัตถุดิบ
-
Standard
deviation of consumption (last 12
month) คือส่วนเบี่ยงเบนของการใช้ในอดีต
-----------------------------------------------------------------------------------------------
จากทางเลือกที่มีให้ ผู้วางแผนคงต้องตัดสินใจเอง
ว่าจะเลือกเส้นทางใด เพื่อให้มีความเหมาะสมที่สุดสำหรับกิจการนั้นๆ
สำหรับผู้ที่สนใจบทความนี้
สามารถติดตามจาก
https://www.facebook.com/ConsultChorn
https://consultchorn.blogspot.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น